แม้กราฟไม้แปรรูปจะปรับลง แต่ผู้ประกอบการก็ยังสู้ราคาไม่ไหว

เผยแพร่ 23/06/2564 17:57

ดูเหมือนว่าขาขึ้นของไม้แปรรูปจะหมดแรงเสียแล้วหลังจากที่วิ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ขาขึ้นครั้งนี้คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมา 95% และกำลังปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากภาวะการอิ่มตัวในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง สังเกตได้จากตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่รายปีของสหรัฐฯ ที่หดตัวลดลงประมาณ 20% จากที่เคยทำจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 927,000 หลังในเดือนตุลาคมปี 2020 

แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ยังมี แต่ดูเหมือนว่าราคาบ้านนั้นจะเริ่มแพงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะรับไหว ข้อมูลจากสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBA) ของสหรัฐฯ เผยว่าสินเชื่อเฉลี่ยสำหรับการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนเมษายนเป็น 377,434 ดอลลาร์จาก 384,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคมLumber Weekly

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาไม้แปรรูปปรับตัวลดลงมาเป็นเพราะเหล่าผู้รับเหมาไม่อาจจะสู้ราคาของไม้แปรรูปในช่วงนี้ได้ ในตอนนี้ราคาไม้แปรรูปมีราคาอยู่ที่ $1,711 ต่อหนึ่งพันฟุตบอร์ด ปรับตัวขึ้นมาจากวันที่ 31 ธันวาคม 2020 คิดเป็น 95% และขึ้นมาจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วคิดเป็น 417%

ความผันผวนในตลาดไม้แปรรูปเริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้มีรายงานเปิดเผยออกมาว่าราคาใบอนุญาตให้มีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยล่วงหน้ามีราคาต่ำที่สุดในรอบเจ็ดเดือน นั่นจึงทำให้ราคาบ้านที่สร้างเสร็จแล้วมีราคาตกลงเมื่อเทียบกับบ้านที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างแล้วแต่ยังไม่ได้เริ่มโครงการ ราคานั้นปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1999 บ่งชี้ว่าอุปทานในตลาดน่าจะยังทรงตัวไปอีกพักหนึ่ง

เมื่อสามปีก่อน ราคาสินค้าไม้แปรรูปเคยมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $300-$500 ต่อหนึ่งพันบอร์ดฟุต จากนั้นราคาไม้แปรรูปก็ถูกปรับขึ้นทันที 24% จากการขึ้นกำแพงภาษีไม้แปรรูปหรือผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปที่ถูกนำเข้ามาจากแคนาดาโดยฝีมือของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้ว่าทรัมป์จะลงจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ช่วงเวลาที่โรคระบาดเข้ามาก็ประจวบเหมาะกับรอยต่อนี้ ทำให้จากเดิมที่ไม้แปรรูปควรจะมีราคาลดลงก็ต้องเพิ่มขึ้นเพราะปัญหาซัพพลายเชนคอขวดที่สร้างผลกระทบมาจนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลจากสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาเผยว่าราคาไม้แปรรูปที่สูงเกินไปมีส่วนทำให้ราคาบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวหนึ่งหลังแพงขึ้นเป็น $35,872 และทำให้ค่าเฉลี่ยของราคาบ้านสำหรับครอบครัวใหญ่เพิ่มขึ้นอีก $12,966 หากภาครัฐไม่รีบจัดการแก้ไขปัญหาคอขวดนี้ เป็นไปได้ยากมากที่จะรอให้ราคาสินค้าเหล่านี้ปรับตัวลดลงมาเอง 

นอกจากไม้แปรรูปแล้ว ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก ยกตัวอย่างเช่นทองแดง แร่เหล็ก ข้าวโพด ข้าวสาลี {{8917|ถั่วเหลือง} (สร้าง high ใหม่ในรอบ 8 ปี) }และน้ำมันดิบCopper Weekly

ถึงแม้ว่าการปรับตัวลงมาครั้งนี้ของกราฟราคาไม้แปรรูปจะไม่ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยสามารถปรับตัวลดลงมาได้มากนัก แต่พฤติกรรมในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปัจจุบันก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยอมเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อในที่สุด หลังจากที่เอาแต่คอยกล่อมนักลงทุนทั้วโลกให้เชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาเป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น

ในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งล่าสุดที่พึ่งเกิดขึ้นไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มิถุนายนตามเวลาประเทศไทยได้ข้อสรุปว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงนโยบายการเงินและดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิม แต่สิ่งที่ทำให้ตลาดลงทุนเซอร์ไพรส์มากที่สุดคือการประกาศร่นระยะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเดิมในปี 2024 ขึ้นมาเป็นปี 2023 

เชื่อว่าเฟดคงยากที่จะทัดทานตลาดให้เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเป็นพียงเรื่องชั่วคราวอีกต่อไป เพราะแม้แต่ดัชนีหลักอย่างตัวเลขราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ก็ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น ฟ้องว่ามีเงินเฟ้อเกิดขึ้นจริง ดัชนีราคาผู้บริโภครายปีที่ประกาศในเดือนพฤศภาคมกระโดดขึ้นเป็น 5.0% เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ในขณะที่ PCE ที่ประกาศในเดือนเมษายนขยับขึ้นเป็น 3.1% คิดเป็นการเติบโตขึ้น 1.5 เท่าเทียบจากตัวเลขคาดการณ์ 2% ของเฟด

แม้ว่านายเจอโรม พาวเวลล์จะยอมรับกับสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่าพวกเขา (เฟด) ประเมินการเร่งตัวของเงินเฟ้อต่ำไป และเงินเฟ้ออาจขึ้นสูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ก็ยังยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น สิ่งที่นักลงทุนสามารถคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนในวันศุกร์นี้คือการเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งของตัวเลขดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล แล้วราคาไม้แปรรูปจะไปทางไหนต่อในอนาคต?

Paul Jannke ที่ปรึกษาทางด้านการเงินของบริษัท Forest Economic คาดว่าราคาไม้แปรรูปอาจปรับตัวลดลงมาวิ่งอยู่ที่ $800 ในเดือนหน้า และไม่คิดว่าจะลงไปไกลมากกว่านั้น 

สำหรับการวิเคราะห์ของ Investing.com เรายังคงมองว่าเป็น “ขาลงหนัก” อยู่ โดยมีแนวรับที่ใกล้ที่สุดจากเครื่องมือ Fibonacci Retracement อยู่ที่ $878 $859 และ $828 ถ้าหลุด $828 ลงไปได้ ให้พิจารณา $797 รอได้เลย

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย