ภาพรวมตลาดลงทุน: ตลาดหุ้น น้ำมัน ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงสวนทางกับดอลลาร์

- นี่คือสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งยังริบหรี่
- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกากลับมาเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจอีกครั้ง

นักลงทุนในตลาดปิดคำสั่งซื้อขายที่มีอยู่ในดัชนีหลักๆ ทั้งสี่ของสหรัฐฯ ได้แก่ดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 แนสแดกและรัสเซล 2000 เช่นกันกับนักลงทุนที่อยู่ในตลาดยุโรปอย่างสต๊อก 600ส่งผลให้ราคาในตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากในตลาดการซื้อขายเมื่อคืน ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกากลับมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลได้เป็นวันที่สองติดต่อกัน

ภาพรวมตลาดลงทุน

ในสัปดาห์ที่แล้ว ขาขึ้นที่ทรงตัวอยู่มานานกว่าสามสัปดาห์เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรงซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายต่างลุ้นกันว่าจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้หรือไม่ ในขณะเดียวกันกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดในรอบสี่เดือนได้เพราะนักลงทุนมีความเชื่อว่าอดีตรองประธานาธิบดีสมัยบารัก โอบามา นายโจ ไบเดนจะสามารถชนะการเลือกตั้งครั้งนี้และมีเก้าอีในสภาสูง และสภาคอนเกรสมากกว่ารีพับลิกัน 

สาเหตุหลักที่ทำให้กราฟผลตอบแทนฯ ปรับตัวสูงขึ้นมีอยู่สองประการ หนึ่งคือพรรคเดโมแครตต่อสู้เป็นอย่างมากเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินเยียวยาก่อนการเลือกตั้ง และหากพรรคเดโมแครตสามารถได้ทั้งตำแหน่งประธานาธิบดี และเก้าอี้ในสภาในสัดส่วนที่มากกว่ามาครองก็จะทำให้รัฐบาลมีศักยภาพในการบริหารวิกฤตได้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 

แม้ตอนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงแต่ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของสัปดาห์ที่แล้วกลับดูดีขึ้น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังขยายตัวอย่างคึกคัก สัปดาห์ที่แล้วดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 0.53% จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ที่ดัชนีดังกล่าวได้ปรับตัวทะลุกรอบรูปแบบ ธงลงมาเนื่องจากความกังวลของนักลงทุนในตลาดที่มีต่อยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19

ตอนนี้กราฟเอสแอนด์พี 500 ได้ลงมาจนเกือบถึงจุดต่ำสุดของบริเวณไหล่ซ้ายของรูปแบบหัวไหล่ (Inverted Head & Shoulder) แล้ว เป็นไปได้ที่บริเวณดังกล่าวจะสามารถกลายเป็นแนวรับสำคัญที่สามารถยื้อราคาเอาไว้ไม่ให้ลงไปมากกว่านี้ก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง

การที่นักลงทุนถอยออกจากตลาดหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงทำให้กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีกลายเป็นตัวเลือกเพื่อความปลอดภัยชั่วคราว

ขาลงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ถูกพิจารณาให้เป็นการย่อเพื่อปรับตัวขึ้นในกรอบราคาขาขึ้นทั้งหมด แต่ที่นักลงทุนต้องระวังคืออินดิเคเตอร์ RSI ที่สามารถขึ้นมาแตะโดน overbought ได้แล้วนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่หากการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายชนะ และได้ตำแหน่งในสภาคอนเกรส และสภาสูงมากกว่า มีโอกาสที่ดอลลาร์จะยิ่งอ่อนมูลค่าลงอีกด้วยเหตุผลสองประการ หนึ่งคือหากเดโมแครตชนะ พวกเขาจะเพิ่มวงเงินของการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นไปอีก สองคือนโยบายทางเศรษฐกิจของเดโมแครตจะเน้นไปที่การรักษาเสถียรภาพมากกว่าการเพิ่มความแข็งแกร่ง  ซึ่งในยุคที่วิกฤตเศรษฐกิจถือว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งสอง ยิ่งทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นในขณะที่สินทรัพย์สำรองปลอดภัยอย่างดอลลาร์จะยิ่งอ่อนมูลค่าลง

จากรูปจะเห็นได้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังพยายามที่จะดันตัวเองกลับขึ้นมาให้ได้ ถือเป็นวันที่สี่ติดต่อกันแล้วที่ขาขึ้นพยายามงัดกับขาลงจนเกิดเป็นกรอบราคาขาขึ้น แต่หากมองในฝั่งของขาลงจุดนี้ก็สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นการย่อเพื่อลงต่อได้เช่นกัน ราคาอาจจะทรงตัวอยู่ในกรอบเล็กๆ นี้ไปจนกระทั่งหลังจากการเลือกซึ่งหากเป็นโจ ไบเดนขึ้นมาจริงๆ เราอาจจะได้เห็นกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ 92 ในสัปดาห์หน้า

ราคาทองคำก็พยายามรักษาระดับของตัวเองเอาไว้ที่บริเวณ $1,900 โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันรองไว้เป็นแนวรับอยู่

หลังจากหลอกนักลงทุนว่าอาจจะปรับตัวลงต่อด้วยการทะลุกรอบสามเหลี่ยมสมมาตรลงมา จากนั้นราคาทองคำก็วิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ ขึ้นลงไปมาระหว่าง $1890 ถึง $1920 สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนกำลังรอผลการเลือกตั้งอยู่ หากทรัมป์ชนะ ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น  แต่ถ้าเป็นโจ ไบเดนราคาทองคำก็จะปรับตัวลดลงมา จุดสังเกตก็คือการวิ่งของราคาอยู่ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 100 วัน หมายความว่าเมื่อกราฟเลือกทางแล้วก็พร้อมที่จะวิ่งไปในทางใดทางหนึ่งอย่างรุนแรงทันที

เมื่อกราฟบิทคอยน์สามารถทะลุราคาเป้าหมายที่รูปแบบธงของเราได้ อินดิเคเตอร์ RSI ก็เริ่มแสดงภาวะ overbought ออกมาให้เห็น

แต่คราบใดที่กราฟบิทคอยน์ยังคงยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์เอาไว้ได้ ก็ให้พิจารณาว่ายังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเอาไว้ก่อน

ราคาน้ำมันยังคงจมอยู่ในแนวโน้มขาลง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบสามารถหลุดแนวรับที่ $39 ลงมาได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม สาเหตุหลักๆ มาจากยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐอเมริกา และมาตรการเยียวเศรษฐกิจที่ไม่มีความคืบหน้า

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคดูเหมือนว่ารูปแบบหัวไหล่ขาขึ้นในตอนนี้อาจจะขึ้นไม่ไหวเสียแล้ว ราคากำลังมุ่งหน้าลงไปยัง $36 และหากทะลุแนวรับดังกล่าวลงไปได้ มีโอกาสที่จะวิ่งลงไปตามรูปแบบลิ่มลู่ลงที่เคยสร้างเอาไว้ในช่วงระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคมมาจนถึงวันที่ 1 กันยายน

ความเคลื่อนไหวในตลาดก่อนวันนี้

ตลาดหุ้น

• ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 1.86%
• ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลดลง 0.8%
• ดัชนี MSCI Asia Pacific ปรับตัวลดลง 0.3%
• ดัชนี MSCI Emerging Markets ปรับตัวลดลง 0.3%

ตลาดฟอเร็กซ์

• ดัชนีดอลลาร์สหรัฐวิ่งขึ้น 0.3% ไปยัง 93.03
• สกุลเงินยูโรปรับตัวลดลง 0.3% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 1.1827
• สกุลเงินปอนด์ปรับตัวลดลง 0.3% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 1.3008
• สกุลเงินเยนปรับตัวลดลง 0.2% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 104.87

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

- กราฟผลคอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลง 4 จุดเบสิสเหลือ 0.80%
- กราฟผลคอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีลดลง 1 จุดเบสิสเหลือ 0.15%
- กราฟผลคอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง 2 จุดเบสิสเหลือ -0.59%
- กราฟผลคอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง 3 จุดเบสิสเหลือ -0.252%

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 3.2% เหลือ $38.49 ต่อบาร์เรล
- ราคาทองคำปรับตัวลดลง 0.2% เหลือ 1,898.64 ต่อออนซ์

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EDT)

วันอังคาร

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน: คาดว่าจะลดลงจาก 0.6% เหลือ 0.4%

10:00 (สหรัฐฯ) ตัวเลขวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยซีบี: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 101.8 เป็น 102

20:30 (ออสเตรเลีย) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -1.9% เป็น 1.5%

วันพุธ

10:00 (แคนาดา) การประชุมเกี่ยวกับอัตราดอเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดา: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ 0.25%

10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง

11:15 (แคนาดา) แถลงการณ์จากธนาคารกลางแคนาดา

(ญี่ปุ่น) ภาพรวมและนโยบายการเงินจากธนาคารกลางญี่ปุ่น

วันพฤหัสบดี

04:55 (เยอรมัน) อัตราการว่างงาน: คาดว่าจะลดลงจาก -8K เหลือ -5K

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะลดลงจาก -31.4% เหลือ -30.9%

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะลดลงจาก 787K เหลือ 775K

08:45 (ยูโรโซน) ผลการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป: คาดว่าจะคงที่

09:30 (ยูโรโซน) แถลงการณ์จากธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป

10:00 (สหรัฐฯ) ตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยมือสองที่อยู่ระหว่างการจำนอง: คาดว่าจะลดลงจาก 8.8% เหลือ 3.5%

วันศุกร์

03:00 (เยอรมัน) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -9.7% เป็น 7.3%

06:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะคงที่อยู่ที่ -0.3%