มหกรรมลดราคา Black Friday เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้! ห้ามพลาดกับส่วนลดสูงสุดถึง 60% InvestingProรับส่วนลด

ปัญญาประดิษฐ์เป็นคุณหรือโทษ?

เผยแพร่ 04/09/2562 17:05
อัพเดท 09/07/2566 17:32

Jack Ma จาก Alibaba เห็นปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของคนและเราไม่ควรจะกลัวในการพัฒนาเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน Elon MuskจากTesla และ SpaceX เตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นตัวอันตรายถึงขั้นจะทำลายมนุษย์ชาติ

ผู้นำระดับร็อกสตาร์ทั้งสองท่านที่มีผู้ชื่นชมทั่วโลก เสนอความเห็นและถกประเด็นนี้ในงาน World Artificial Intelligence Conference 2019 ที่เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา

Elon Musk เสนอว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมาก มีความสามารถในการคำนวณหลายอย่างเร็วกว่าคน ซึ่งจะทำให้คนดูเหมือนโง่ และคอมพิวเตอร์ก็จะถึงจุดที่ขาดความอดทน เพราะมนุษย์ช้าเกินไป เปรียบเทียบเหมือนกับ ”ยืนพูดกับต้นไม้”

Jack Ma ย้ำว่า โทรศัพท์มือถือปัจจุบันก็เหมือนกับอวัยวะสำคัญที่เราจะต้องมีติดตัวตลอดเวลา คุณประโยชน์คุ้มค่าในทุกด้านของชีวิตประจำวัน ยิ่งนับวันเรายิ่งจะพึ่งปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แบ่งปัญญาประดิษฐ์ เป็นสามระดับ ดังนี้

1. Narrow AI คือนวัตกรรมที่เรามีปัจจุบันนี้ โดยสมองกลจะทำตามคำสั่งของเรา ทำให้งานของเราสะดวก เร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไม่สามารถที่จะคิดทำอย่างอื่นได้ เพราะเราไม่ได้สั่ง(โดยการเขียนโปรแกรมไว้)
2. General AI คือปัญญาประดิษฐ์มีความฉลาดเท่าคน
3. Super-intelligent AI คือสมองกลฉลาดกว่ามนุษย์

ในสังคมปัจจุบัน เรากำลังปรับตัวเข้ากับปัญญาประดิษฐ์ระดับเบื้องต้น (Narrow AI) เท่านั้น ขณะที่เราได้ประโยชน์กับการจับจ่ายซื้อของทางออนไลน์และการใช้แอพต่างๆที่สร้างความสะดวก และประหยัดเวลา เราก็เจอสิ่งท้าทายมากขึ้น เช่นระยะนี้ มีข่าวว่า เทศบาลหลายเมืองทั่วอเมริกา ถูกโจมตีทางไซเบอร์ (cyber attack) ล่าสุดระบบคอมพิวเตอร์ของเทศบาล 22 แห่งในรัฐเทกซัส ถูกแทรกแซงจนใช้งานไม่ได้ และผู้ร้ายเรียกค่าไถ่ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปลดการล็อคข้อมูลต่างๆ

เมืองเลคซิตี้ (Lake City) รัฐฟลอริดา ยอมจ่ายกว่า 4 แสนเหรียญ (ด้วย Bit coins)เพื่อต้องการข้อมูลกลับคืนมา เพราะไม่สามารถจะบริหารเมืองได้หากระบบโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์สื่อสารโดนล็อค ขณะเดียวกันบางเทศบาลไม่ยอมจ่าย เพราะไม่ต้องการให้ผู้เรียกค่าไถ่ได้ใจ และทำเหตุการณ์อย่างนี้อีก ผู้ที่ไม่ยอมจ่ายส่วนใหญ่มีข้อมูลสำรองเก็บบันทึกไว้แบบ”โบราณ”(บนกระดาษ)

เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งและผู้ร้าย(คน)นับวันก็จะเพิ่มเล่ห์กลมากขึ้น ระบบการจัดการต่างๆแต่ละสำนักงานใช้คอมพิวเตอร์ในการทำบัญชี บุคลากร ส่งใบเก็บเรียกเงินและภาษีแทบทุกอย่าง ที่เคยใช้การจดบันทึกแบบเก่าปัจจุบันแทบไม่มีแล้ว หากข้อมูลดิจิตอลหายไปก็เป็นว่าทุกอย่างต้องเริ่มจากศูนย์

ในระดับบุคคล ผู้บริโภคโดยทั่วไปก็ให้ความไว้ใจต่อการเก็บข้อมูลของภาครัฐและภาคเอกชน การเงินการธนาคารบันทึกข้อความเอกสารต่างๆ ที่สำคัญคือ เราพึ่งปัญญาประดิษฐ์ และเชื่อว่าตัวเลขในบัญชีธนาคารที่เราฝากไว้ยังอยู่วันนี้และพรุ่งนี้

มหาวิทยาลัยในอเมริกากำลังเปิดภาคเรียนประจำปีในช่วงนี้ ในห้องเรียนจะมีนักศึกษาที่ใช้ปากกาและสมุดลดลงทุกปี ข้อมูลทุกอย่างเข้าไปในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก พฤติกรรมของเยาวชนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมาก สังเกตการรับและให้ข้อมูลและการ”สนทนา”ระหว่างบุคคล ปัจจุบันอวัยวะที่ 33 (มือถือ)เป็นสิ่งจำเป็นมาก

เพิ่งไม่นานมานี้เอง ที่อาจารย์หลายคนห้ามนักศึกษานำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องเรียน แต่ปัจจุบันแทบไม่มีการห้ามแล้ว

หากปัญญาประดิษฐ์สร้างความไม่สะดวก เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นห่วง แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่าความสามารถในการคำนวณและพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ปัจจุบันกำลังพุ่งไปถึงจุดอันตราย เช่น การแข่งขันการผลิต และใช้อาวุธสงคราม

ผู้ที่มองโลกในแง่ดี ก็ยังมีความหวังว่า คอมพิวเตอร์ที่ฉลาดมาก จะช่วยในการป้องกันสงคราม กำจัดโรคและความยากจน และคาดหวังว่ามนุษย์จะมีความเฉลียวฉลาดแข่งกับคอมพิวเตอร์ไปด้วย

คำถามก็คือว่า เรามีทางเลือกหรือไม่ เราควรที่จะพัฒนาต่อไปและปรับตัวตามความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ หรือควรที่จะหาทางถ่วงให้ช้าลง หรือมีมาตรการควบคุมแบบรอบคอบ เรื่องนี้อาจจะเป็นกรณีของการพูดง่ายแต่ทำยาก เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีของปัญญาประดิษฐ์ในทางปฏิบัติแล้วยากที่จะควบคุมได้หมด ทำไปแก้ไปอาจจะเป็นทางเลือกเดียว เปรียบเหมือนเมื่อเรามีนวัตกรรมสร้างรถยนต์เป็นครั้งแรกเมื่อ 134 ปีก่อน กฎหมายต่างๆก็ต้องตามมาทีหลัง มีทั้งประโยชน์และโทษ เราก็ปรับตัวตามไป

คำถามที่สำคัญต่อไปคือแล้วเมื่อใดปัญญาประดิษฐ์จะเก่งเท่าและกว่ามนุษย์ เรื่องนี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้ ผู้เชี่ยวชาญในวงการนี้บางคนบอกว่าอีกไม่กี่ปีแต่บางคนบอกว่าอาจจะอีกหลายสิบปี สรุปแล้วคือจะเกิดขึ้นแน่ แต่เมื่อไหร่เท่านั้นเองครับ

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ThaiVI.org

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย