สรุป เช้านี้ราคาทองคําขึ้นทําระดับสูงสุดบริเวณ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าตัวเลขสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาจะแข็งแกร่ง โดย ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของ สหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ดอลลาร์กลับอ่อนค่าลง ส่วนหนึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าสภาพคล่องในระดับต่ําใน หลายๆส่วนของโลกในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ทําให้ดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าเกินความจริง อีกด้านหนึ่ง ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกระตุ้นให้นัก ลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยออกมา อย่างไรก็ดี ราคาทองคําปรับตัวขึ้นได้ไม่ไกล เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ที่เด่นชัดเข้ามาหนุนราคาทองคํา ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ในการเข้าร่วมการประชุมประจําปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกในสัปดาห์นี้ ตนจะผลักดันการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ของประเทศต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก บั่นทอนความ ต้องการทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาทองคําจึงเผชิญแรงขายทํากําไรสลับออกมาเป็นระยะเมื่อราคาปรับตัวขึ้น ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคา ทองคําพยายามขึ้นไปทดสอบเหนือ 1,738 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,755-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้า ไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,717 และแนวรับถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับกลยุทธ์ การลงทุน แนะนําเข้าซื้อหากสามารยืนเหนือ 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตัดขาดทุนหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับการขายทํากําไร พิจารณาหากราคาไม่ผ่านบริเวณ 1,755-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอซื้อเล่นสั้นหากราคาอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือแนวรับได้
คำแนะนำ เน้นทํากําไรระยะสั้นจากการที่ราคาแกว่งตัว ค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นแต่จําเป็นต้องตังจุดทํากําไรและจุดตัดขาดทุนโดยอาจรอซื้อในโซน 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th