ราคาหุ้นลดลง 33-38% YTD จากความเสี่ยงที่กำไรจะอ่อนกว่าคาดและ Valuation ที่แพงกว่ากลุ่ม
ตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้น ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (BK:SAWAD) และ Muangthai Capital PCL (BK:MTC) ปรับลง 33.6% และ 37.6% ตามลำดับ เรามองว่าเกิดจาก 2 ปัจจัยคือ 1) แนวโน้มผลดำเนินงานในปี2563 มีโอกาสแย่กว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากมีผลกระทบจาก COVID-19ที่ทำให้กิจกรรมทาง ศก. ลดลงไปมาก กระทบกับความสามารถในชำระหนี้ของลูกหนี้บางส่วน รวมทั้งทำให้บริษัทเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ เช่นการลดระดับ Loan to Value ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราโตของสินเชื่อรวมถึงการตั้งสำรองที่คาดสูงขึ้นหลังเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 ที่มีความอ่อนไหวต่อการเพิ่มขึ้นของ NPL และภาวะ ศก. มากกว่าวิธีเดิม และ 2) Valuation อยู่ในระดับสูง ซื้อขายที่ระดับ PBV4-8x เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่ม FINANCE อื่นเช่น อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (BK:AEONTS) และ บัตรกรุงไทย จำกัด (BK:KTC) ที่ซื้อขายอยู่ในระดับ PBV 2-4xในช่วงที่เกิด Panic Sell ทั้ง 2 บริษัทจึงมีแรงขายออกมาค่อนข้างมาก
ปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ เพื่อให้สะท้อน ศก. ในประเทศที่อ่อนแอลง
แม้เรามอง SAWAD และ Muangthai Capital PCL (BK:MTC) จะได้รับผลกระทบในแง่ของการให้สินเชื่อที่ชะลอลง เพราะบริษัทเพิ่มความเข้มงวดของนโยบายการให้สินเชื่อ แต่คาดไม่รุนแรงเท่ากับกลุ่มแบงก์เนื่องจากการให้สินเชื่อของ SAWADและ MTC ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันและให้ LTV อยู่ในระดับ 40-60% รวมทั้งมีการเซ็นโอนลอยไว้ให้กับบริษัท ทำให้ในกรณีเลวร้ายบริษัทสามารถติดตามเพื่อยึดมาขายในตลาดมือสองและนำเงินมาชำระหนี้คืนได้ และในช่วงที่แบงก์เพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ จะทำให้ผู้ที่ต้องการเงินทุนหันมาใช้
บริการของกลุ่ม Non-Bank มากขึ้น เราจึงประเมินว่าอัตราโตของสินเชื่อ SAWAD และ MTC ลดลงเพียง2-4% จากประมาณการเดิม (เห็นผลมากในช่วง 2Q63) ขณะที่การตั้งสำรองมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามผลของมาตรฐานบัญชีใหม่และ NPL ที่คาดเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อยึดหลักอนุรักษ์นิยมเราจึงปรับเพิ่ม Credit Costของทั้ง 2 บริษัทขึ้น 50 bps นอกจากนี้เรายังเพิ่ม Cost to Income Ratio เพื่อให้สะท้อนค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้ที่สูงขึ้น ทำให้ภายใต้ประมาณการใหม่ของปี 2563 เราคาด SAWAD จะมีกำไรสุทธิ 4,290 ลบ.
โต 14.2%YoY ส่วน MTC คาดกำไรสุทธิ 4,608 ลบ. โต 8.7%YoY
ราคาหุ้นกลับมามี Upside ในระดับที่น่าสนใจอีกครั้ง
ในแง่ Valuation เรามีการปรับสมมุติฐาน Risk Free Rate, Market Return และ Sustainable ROE ของทั้ง2 บริษัทลง ให้สอดคล้องกับภาวะ ศก. ในปัจจุบัน ได้มูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2563 ของ SAWAD และ MTC ที่62.5 บาท และ 54 บาทตามลำดับ ทำให้กลับมามี Upside 37.4% และ 35.8% โดยแม้จะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่หดหายไปบ้าง แต่ด้วยโมเดลธุรกิจที่มี Buffer จากมูลค่าหลักประกันที่สูงกว่ามูลค่าหนี้ และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่จะได้อานิสงค์บวกในช่วงภาวะดอกเบี้ยต่ำ เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำของทั้ง 2 บริษัทขึ้น
จาก “Trading” เป็น “ซื้อ”
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities