Investment Ideas:
• ภาพรวมการลงทุนวันนี้ - เราคาดว่า SETวันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,600 จุด ตลาดหุ้น ไทยยังคงผันผวน แม้วานนี้ (10 พ.ค.) SET จะปรับเพิ่ม 3.12 จุด (+0.2%) แต่เป็นผลจากหุ้น DELTA และ TIDLOR ที่หนุน SET ประมาณ 7.25 จุด อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า SET ยังมีโอกาส ปรับเพิ่ม ตาม Theme หุ้นในกลุ่ม Global Play ที่ได้ประโยชน์จากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาด ใหญ่ รวมทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ทยอยการเปิดเศรษฐกิจ รวมทั้งความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้น ในการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวในระยะต่อไป ซึ่งคาดว่าจะทยอยเกิดขึ้นในช่วง 2H64 จากจํานวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ และมีความคืบหน้าในการดําเนินการ ฉีดวัคซีนในอัตราที่สูง จนนําไปสู่ความคาดหวังในการเกิด Herd Immunity ในระยะอันใกล้ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของ SET และตลาดหุ้นบ้านเรายังถูกจํากัดจากความล่าช้าในการจัดหา และดําเนินการฉีดวัคซีน ขณะที่สัปดาห์นี้จะมีการประกาศผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งถูกคาดหมายจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ราคาหุ้นจะยังมีการตอบรับเชิงบวกในระยะสั้น แต่สัปดาห์หน้าอาจต้องเริ่มระมัดระวังแรงขายในลักษณะ Sell on Fact โดยกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Global play (เก็งกําไร) สัดส่วนหุ้นในพอร์ต 40% (เดิม 606)
• คลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศ และปัญหาท่อส่งน้ำมันดิบในสหรัฐฯ หนุนราคาน้ำมันดิบ - สัญญา น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ (+0.0396) หลังกลุ่มประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ อย่าง สหรัฐฯ และยุโรป ทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ มีการทยอยผ่อน คลายล็อกดาวน์ใน รัฐ New York New Jersey และ Connecticut เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) แนะนําให้เปิดรับชาวต่างชาติที่ได้รับ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิต-19 หรือมาจากประเทศที่ควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี นอกจากนี้ท่อ Colonial Pipeline ในสหรัฐฯ ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทําให้บริษัทท่อส่งน้ำมัน โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ได้ระงับการ ดําเนินงานชั่วคราวเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน จากความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของโครงสร้างพื้นฐานใน ภาศพลังงานที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสําเร็จรูป จากเมือง Houston รัฐ Texas ไปยังฝั่งตะวันออก ซึ่งจะกระทบปริมาณน้ำมันรวมประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวันต้องหยุดชะงัก
• การดําเนินการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า ยังเป็นความเสี่ยงจํากัดการฟื้นตัว - โดยข้อมูลล่าสุดทั่วโลกมีการดําเนินการฉีดวัคซีนรวม 1.3 พันล้านโตส โดยมีผู้ได้รับ Fully Vaccinate ประมาณ 8.69% ของประชากร รวม โดยมีอัตราเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 19.4 ล้านโตส ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 17 เดือน จึงจะเกิด Herd Immunity (อัตราการเกิด Herd Immunity อยู่ที่ 75% ของประชากร) ขณะที่สหรัฐฯ และจีน จะเกิด Herd Immunity ภายใน 3 เดือน และ 9 เดือน ตามลําดับ ขณะที่ไทยมีการดําเนินการฉีดวัคซีน อยู่ที่ 36,740 โตสต่อวัน ซึ่งจะทําให้ไทยต้องใช้เวลามากถึง 7-8 ปี ในการทําให้เกิด Herd Immunity เรามองปัจจัยดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยจํากัดการฟื้นตัวของภาพรวมการลงทุน และภาพรวมเศรษฐกิจ ที่พึ่งพาการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามภาครัฐฯ ของไทย เริ่มมีความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนเพิ่ม ซึ่งจะทยอยนําเข้ามาในช่วง 4 - 5 เดือนข้างหน้า ทําให้เรายังคงต้องติดตามการดําเนินการฉีดวัคซีนในอัตราที่เพิ่มขึ้น เพื่อหาสัญญาณเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ
• ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 1.0%YoY แต่ลดลง 0.26MOM) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 6.6%YoY) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่น ทางเศรษฐกิจ ZEw (ZEW Economic Sentiment) เดือน พ.ค. / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของเยอรมนี ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (Economic Sentiment) เดือน พ.ค. (คาดว่าจะอยู่ที่ 70.9 จุด) และดัชนีภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน (Current Conditions) เดือน พ.ค. (คาดอยู่ที่ -42,4 จุด) / รายงาน เศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (JOLTs Job Openings) เดือน มี.ค. (คาตเพิ่มขึ้น 6,995 ล้านตําแหน่ง)
• บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน - Earrings Results: BANPU และ BPP / Key Takeaway: PACO
• มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,600 จุด หุ้นแนะนําทาง เทคนิควันนี้ได้แก่ STPI AMATA GFPT ILM และ NEX
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities