What’s new?
- ดีลขาย SCBLIFE เสร็จสิ้น เตรียมรับรู้กำไรพิเศษราว 1.1 หมื่นลบ.
- ผลต่อกำไรปกติ 3Q19 ค่อนข้างจำกัด คาดเห็นการเปลี่ยนแปลงในการบันทึกรายได้/ค่าใช้จ่ายของธุรกิจประกันตั้งแต่ 4Q19 อย่างไรก็ดีคาดไม่เห็นผลเชิงลบต่อประมาณการ
Our view
- แนะนำ “ซื้อ” โดยคาดหวัง Upside ราว 30.7% จากมูลค่าพื้นฐานปี 19 ที่ 157 บาท
- ศักยภาพระยะยาวน่าสนใจ หลังเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลลงทุนใน Transformation Plan
SCB รายงานตลท. หลังขาย SCBLIFE เสร็จสมบูรณ์
วันศุกร์ที่ผ่านมา SCB รายงานต่อ ตลท. เกี่ยวกับการขายหุ้น SCBLIFE ที่ SCB ถืออยู่ 99.2% ให้กับ FWD Group Financial Services Pte. Ltd โดยมีมูลค่าธุรกรรม 92,700 ลบ. ซึ่งมีใจความสำคัญดังนี้คือ 1) SCB จะบันทึกกำไรจากการขาย SCBLIFE หลังหักภาษีในช่วง 3Q62 ราว 11,000 ลบ. 2) SCB จะทยอยรับรู้รายได้จำนวน 17,700 ลบ. ภายในระยะเวลา 15 ปี (คิดเป็นรายได้ค่าธรรมเนียมปีละ 1,180 ลบ.) ตามสัญญา Distribution Agreement ที่ทำกับ FWD เพื่อใช้สาขาของ SCB เป็นจุดขายผลิตภัณฑ์ประกันของ FWD และ SCBLIFE 3) SCB มีโอกาสได้รับรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายผลิตภัณฑ์ประกันให้กับ SCBLIFE และ FWD เพิ่มเติมจากวงเงิน 92,700 ลบ.
ผลต่อกำไรปกติ 3Q62 ค่อนข้างจำกัดยังคาดโต 2.9%YoY
เราประเมินผลกระทบต่อกำไรปกติในช่วง 3Q19 ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปลายไตรมาสทำให้ SCB ยังคงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจาก SCBLIFE จนถึงวันที่ 26 ก.ย. 19 โดยเรายังคงคาดกำไรปกติช่วง 3Q19 ที่ 10,829 ลบ. โต 2.9%YoY ตามเดิม โดยมีแรงหนุนหลักจากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับฐานผู้ใช้งาน Digital ที่ขยายตัวต่อเนื่อง บวกกับ NIM ที่คาดเพิ่มขึ้น หลังมีการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจาก SCBLIFE ในช่วงก่อนเสร็จสิ้นธุรกรรม ทั้งนี้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของช่วง 3Q19 และกำไรสุทธิของปี 2019 ขึ้น 104.4% และ 26.5% ตามลำดับเพื่อสะท้อนถึงรายการพิเศษที่เพิ่มเข้ามา โดยภายใต้ประมาณการใหม่ยังคาดช่วง 3Q19 SCB จะมีกำไรปกติ 10,809 ลบ. โต 2.9%YoY และมีกำไรสุทธิ 21,809 ลบ. โต 107.5%YoY ส่วนทั้งปี 2019 คาดกำไรสุทธิที่ 52,493 ลบ. โต 31%YoY
ตั้งแต่ 4Q62 คาดเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ประเมินว่าจะไม่มีผลเชิงลบ
เราคาดรายการดังกล่าวจะเริ่มส่งผลต่องบการเงินของ SCB ตั้งแต่ช่วง 4Q19 เป็นต้นไปดังนี้ คือ 1) การรับรู้รายได้/ค่าใช้จ่ายของธุรกิจประกันจะเปลี่ยนไปจากเดิมมีการรับรู้ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้จากการรับประกันภัยรวมทั้งรับรู้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของ SCBLIFE ทั้งหมด แต่หลังเสร็จสิ้นธุรกรรม SCB จะรับรู้เฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันและรายได้จากการตัดจำหน่ายตามสัญญา Distribution Agreement (Access Fee) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานของ SCBLIFE 2) NIM จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเนื่องจากไม่มีการบันทึกทั้งรายได้ดอกเบี้ยและสินทรัพย์ของ SCBLIFE และ 3) เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของ SCB (CAR) เพิ่มขึ้น 1% หลัง Risk Weighted Asset ในส่วนของธุรกิจประกันลดลง นอกจากนี้เบื้องต้น SCB ให้ข้อมูลว่าเงินที่ได้รับจากธุรกรรมดังกล่าวจะถูกนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทำให้ SCB ไม่ได้รับผลกระทบด้านลบจากกำไรของ SCBLIFE ที่จะหายไปจากงบรวมของ SCB ตั้งแต่ช่วง 4Q19 (ปี 2018 SCBLIFE มีกำไร 5,424 ลบ. และช่วง 1H19 มีกำไร 2,150 ลบ.)
แนะนำ “ซื้อ” โดยช่วงสั้นคาดหวังปันผลพิเศษ และระยะยาวคาดเห็น NIM ที่เพิ่มขึ้น
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ SCB โดย ณ ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 30.7% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2019 ที่ 157 บาท (วิธี GGM) นอกจากนี้ยังมี Upside Risk จากแผนนำเงินที่ได้รับจากการขาย SCBLIFE จำนวนกว่า 92,700 บาทไปลงทุนเพื่อขยายธุรกิจซึ่งคาดจะเป็นไปตามแผนรุกสินเชื่อรายย่อยของ SCB เพื่อเพิ่ม NIM ในระยะยาว ส่วนในระยะสั้นคาดหวังเงินปันผลพิเศษอีกราว 1-3.2 บาทต่อหุ้น (หลังพิจารณาแผนลงทุนใหม่) คิดเป็น Div.Yield ปี 2H62 อยู่ที่ 4.2-6% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”