จับตาท่าทีของสหรัฐฯ ต่อจีน ในช่วงเวลาที่หลายปัจจัยรุมเร้า
การแถลงข่าวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ยังไม่ได้มีการตอบโต้จีนโดยตรงต่อกรณีที่จีน ผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงสำหรับฮ่องกง แต่ใช้วิธีการตอบโต้ทางอ้อมด้วยการเตรียมตัดสิทธิพิเศษด้านการค้าที่สหรัฐฯ ให้กับฮ่องกง ทำให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง คลายความกังวลระยะสั้นด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้น ราว 2-3% ในวันทำการแรกของเดือน มิ.ย.2563 อย่างไรก็ดี มีประเด็นใหม่เข้ามา คือ จีนเตรียมชะลอคำสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ทำให้ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีความไม่แน่นอนอีกครั้ง จับตาท่าทีของทางสหรัฐฯ ต่อแนวทางดังกล่าวของจีน ในภาวะที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศในเวลาเดียวกัน จากการชุมนุมประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อการเสียชีวิตของนาย George Floyd ส่งผลให้หลายเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการ Curfew
• Comment:
สหรัฐฯ กำลังเจอหลายประเด็นเข้ามารุมเร้าทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่จำนวนผู้ป่วยใหม่ ยังคงเพิ่มในระดับ 2 หมื่นราย ต่อวัน, ความไม่สงบภายในประเทศจากการชุมนุมประท้วง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะงักในระยะสั้น แถมมีประเด็นการเมืองระหว่างจีน-ฮ่องกง เข้ามา เราประเมินสถานการณ์ ดังนี้
(1) สหรัฐฯ หลีกเลี่ยงการเปิดศึกษาหลายด้าน ด้วยการชะลอการตอบโต้จีนอย่างรุนแรงออกไปก่อน เราแนะนำทยอยสะสมกองทุนหุ้นจีน คือ กองทุน T-ES-CHINA A ของ บลจ.ธนชาต ซึ่งเน้นลงทุนในกองทุนหลัก UBS CHINA A Opportunity เน้นลงทุนในหุ้นจีน A Share ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวสอดคล้องไปกับนโยบายส่งเสริมกลุ่มเศรษฐกิจใหม่หรือ New Economyอย่างกลุ่ม Consumer, Healthcare, การเงิน เป็นต้น โดยกองทุนหลักมีผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ +13.4% ต่อปี เหนือดัชนีชี้วัดที่ -8% ต่อปี (ข้อมูลจาก UBS ณ สิ้นเดือน เม.ย.2563) ในทางกลับกัน
(2) หากสหรัฐฯ ตอบโต้จีนโดยตรงทันที จะทำให้ Sentiment การลงทุนจะป็นลบ เราแนะนำชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน
OPEC+ อาจเลื่อนประชุมเป็นวันที่ 4 มิ.ย. 2563?
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่ากลุ่มประเทศโอเปคและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปค (OPEC+) ทั้ง 23 ประเทศ อาจพิจารณาเลื่อนการประชุมจากวันที่ 9-10 มิ.ย. 2563เป็นวันที่ 4 มิ.ย. 2563 เพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ไปอีก 1-3เดือน
Source: Bloomberg, Infoquest
• Comment:
ปัจจุบันข้อตกลงลดการผลิตของ OPEC+ แบบขั้นบันได 1) 9.7บาร์เรล/วัน ช่วง พ.ค.-มิ.ย. 2) 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ช่วง ก.ค.-ธ.ค. 3) 5.8 ล้านบาร์เรล/วัน ช่วง ม.ค. 2564-เม.ย. 2565 ซึ่งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่ม OPEC ได้เสนอให้ยืดระยะเวลาลดการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ไปอีก 1-3 เดือน โดยหากสามารถตกลงยืดระยะเวลาลดการผลิตไปได้จะเป็น Upside risk ต่อราคาน้ำมันนอกจากนี้ ภาวะตลาดน้ำมันมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทำให้อุปสงค์การใช้น ้ามันทยอยฟื้นตัว ขณะที่ด้านอุปทานมีแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เราแนะนำกองทุนน้ำมัน คือ K-Oil ลงทุนใน Invesco DB Oil Fund (NYSE:DBO) เน้นให้ NAV เคลื่อนไหวตามราคาน้ำมัน WTI และมีต้นทุนในการเปลี่ยน สัญญา (rollover cost) ต่ำที่สุด
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities