มหกรรมลดราคา Black Friday เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตอนนี้! ห้ามพลาดกับส่วนลดสูงสุดถึง 60% InvestingProรับส่วนลด

หุ้น Walmart น่าดึงดูดขึ้นเมื่อเปิดตัวบริการใหม่เข้าใกล้ Amazon เข้าไปทุกที

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 16/09/2563 18:48
MSFT
-
ORCL
-
GOOGL
-
AMZN
-
WMT
-
META
-
GOOG
-

สำหรับนักลงทุนบางคนการซื้อหุ้นของบริษัทร้านสะดวกซื้อเป็นอะไรที่น่าเบื่อ อัตราส่วนในการทำกำไรจากธุรกิจต่ำและให้ผลตอบแทนน้อย แต่ความเชื่อพวกนี้คือความเชื่อของคนยุคเก่าซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงในสมัยนี้ที่บริษัทเจ้าของร้านสะดวกซื้อมากมายพยายามเปลี่ยนโครงสร้างภายในของบริษัทตัวเองให้เข้ากับยุคที่ E-commerce กำลังเบ่งบาน พวกเขาทั้งปรับปรุงรูปแบบร้านค้าปลีกที่มีอยู่เดิมแต่เพิ่มเติมคือระบบสั่งซื้อของออนไลน์จนเรียกได้ว่ามีความสำคัญไม่แพ้ (เผลอๆ จะมากกว่า) หน้าร้านเสียด้วยซ้ำเพื่อสร้างมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค

เมื่อพูดถึงร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกใครๆ ต่างก็ต้องนึกถึงวอลล์มาร์ท (NYSE:WMT)ที่หากพูดกันตรงๆ ก็คือบริษัทพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีระบบออนไลน์รองรับลูกค้ามากขึ้นโดยอาศัยการก็อบรูปแบบการทำธุรกิจ E-commerce มาจากบริษัทแอมาซอน (NASDAQ:AMZN) จนกลายเป็นบริษัทที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นเยาว์ได้ด้วยอาศัยระบบเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับคนยุคนี้

Walmart 1-Year Chart.

ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึงระบบสมัครเป็นสมาชิกหรือ “ซับสคริปชัน (Subscription)” เพื่อดึงผู้ใช้งานให้เข้ามาอยู่ในระบบนิเวศน์ของบริษัทและดึงลูกค้าเอาไว้ในอยู่กับสภาพแวดล้อมนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นวอลล์มาร์ทจึงไม่น้อยหน้าขอเปิดตัวบริการซับสคริปชันบ้างภายใต้ชื่อ “วอลล์มาร์ท+” เพียงชำระเงินปีละ $98 ต่อปีคุณก็จะได้รับสิทธิ์ส่งของจากวอลล์มาร์ทถึงมือคุณโดยตรงโดยไม่คิดค่าจัดส่งและยังมีบริการสั่งของวันนี้ได้วันนี้อีกด้วยซึ่งตัวเลข $98 นี้ถูกกว่าค่าสมาชิกรายปีของแอมาซอน พราม (Amazon Prime) ที่ตกอยู่ปีละ $119 ต่อปีเสียอีก

วอลล์มาร์ท+ คือบริการที่ออกมาเพื่อดึงลูกค้าที่ติดใจและได้สัมผัสความสะดวกสบายจากการสั่งของอยู่บ้านในช่วงโควิด-19 ซึ่งวอลล์มาร์ทต้องการจะต่อยอดข้อได้เปรียบจากจำนวนร้านสะดวกซื้อที่มี 4,700 สาขาโดยประมาณ ราคาวัตถุดิบอาหารที่ถูกกว่าที่อื่น การรักษาลูกค้าเดิมและตำแหน่งผู้นำในตลาดในขณะเดียวกันก็เพิ่มลูกค้าใหม่เข้ามาด้วย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้รายงานผลสำรวจจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสและนักวิจัยจากนัมเมอเรเตอร์ (Numerator) ว่ามีผู้บริโภคประมาณ 5 ล้านคนที่พร้อมจะสมัครเป้นสมาชิกของวอลล์มาร์ท+ ทันทีที่เปิดให้บริการและวอลล์มาร์ทอาจจะมียอดสมาชิกสูงสุดถึง 20 ล้านคน ส่วนแอมาซอน พรามในตอนนี้ข้อมูลจาก CIRP ระบุว่ามีสมาชิกอยู่มากกว่า 118 ล้านคน

การเปิดพื้นที่ใหม่ๆ สำหรับการเติบโตที่ไปได้ไกลกว่าเดิม

การเปิดตัววอลล์มาร์ท+ หมายถึงการก้าวเข้าสู่สนามแข่งขันทางเศรษฐกิจยุคดิติทัลซึ่งดูเหมือนว่าวอลล์มาร์ทจะเตรียมการสำหรับเรื่องนี้มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ในปี 2018 วอลล์มาร์ทได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตวิดีโอ Eko ซึ่งช่วยวอลล์มาร์ทพัฒนาระบบการเลือกซื้อของเล่นแบบดิจิทัลได้ ก่อนหน้านี้ไม่นานวอลล์มาร์ทก็ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) เพื่อพยายามเข้าซื้อกิจการของแอปพลิเคชันสัญชาติจีน “ติ๊กตอก (TikTok)” ซึ่งมีผู้ใช้งานชาวอเมริกันอยู่มากกว่า 100 ล้านคนแต่ก็ต้องขว้าน้ำเหลวเมื่อติ๊กตอกเลือกที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท ออราเคิล (NYSE:ORCL) แทน

ความเป็นไปได้ที่วอลล์มาร์ทจะได้เป็นะพาร์ทเนอร์กับติ๊กตอกทำให้วอลล์มาร์ทเติบโตขึ้นในแง่ของภาพลักษณ์กับริษัทเทคโนโลยีที่ไม่ได้อยู่ในสายผลิตภัณฑ์เดียวกันกับวอลล์มาร์ทเลย การเข้ามามีส่วนร่วมครั้งนี้ทำให้วอลล์มาร์ทได้กำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าการขายแต่โค้กและชีโต้สไปวันๆ นักวิเคราะห์จากบลูมเบริกแสดงความเห็นว่า “ติ๊กตอกจะเปิดพื้นที่การขายให้กับวอลล์มาร์ทได้อย่างมหาศาล ผู้ใช้งานไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดก็ตามหากได้เห็นโฆษณาของวอลล์มาร์ทบนติ๊กตอกก็ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงวอลล์มาร์ทได้ง่ายขึ้น นี่อาจจะทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่แบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนกับวอลล์มาร์ทแทนที่จะเทไปให้กับกูเกิล (NASDAQ:GOOGL) เฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) และแอมาซอน"

การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลมาได้ทันเวลาพอดีกับช่วงที่ธุรกิจขายปลีกกำลังมีสภาพทางการเงินที่พร้อม หากคุณได้ติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มค้าปลีกจะพบว่าบริษัทในกลุ่มนี้มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในไตรมาสที่ 2 ปี 2020 เมื่อเทียบกับยอดขายในไตรมาสเดียวกันปี 2019 เมื่อเปรียบเทียบยอดขายแบบปีต่อปีระหว่างร้านตัวแทนจำหน่ายดั้งเดิมกับการซื้อขายออนไลน์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด (นับถึงวันที่ 31 กรกฎาคม) พบว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 9.3%

ตัวเลขเหล่านี้คือหลักฐานยืนยันการเติบโตของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกแบบสองไตรมาสติดต่อกันและเป็นหลักฐานยืนยันการเติบโตของวอลล์มาร์ทในยุคที่โลกกำลังเผชิญหน้ากับภัยโรคระบาดที่รุนแรงที่สุด หลายๆ บริษัทที่ไปไม่รอดหรือปรับตัวไม่ทันต่างต้องพากันยื่นขอล้มละลายกันไป

โดยสรุปแล้ว

สำหรับนักลงทุนบางคนอาจจะมองว่าในตอนนี้ราคาหุ้นของวอลล์มาร์ทมีราคาเกินไปแล้ว แต่ในความเห็นของเรานี่คือความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าวอลล์มาร์ทวันนี้ไม่ใช่วอลล์มาร์ทเมื่อห้าปีที่แล้ว การเรียนรู้ที่ปรับตัว ความกล้าที่จะเปลี่ยนความเชื่อเดิมๆ ไปสู่ความเชื่อใหม่ๆ ทำให้เรามองว่าหุ้นของวอลล์มาร์ทยังเหลือพื้นที่มากพอสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งวอลล์มาร์ทในตอนนี้ได้เรียนรู้ที่จะเข้าหาผู้บริโภครุ่นเยาว์และมอบประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยแบบวัยรุ่นให้กับพวกเขา

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย