สรุป ราคาทองคําช่วงเช้าวันจันทร์ที่ตลาดเอเชียแกว่งตัวในกรอบ 1,744.20-1,736.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยืนเหนือระดับต่ําสุดของวันศุกร์ที่ทําไว้บริเวณ 1731.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อ Buy the dip อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของราคายังไม่สามารถทําระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้า สืบเนื่องจากวันศุกร์ สหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตออกมาดีเกินคาด หนุนให้ Dollar Index ขยับขึ้นต่อเช้านี้มาอยู่ที่ 92.26 จุด เป็นปัจจัยสกัด ช่วงบวกของราคาทองคํา นอกจากนี้ ทองคํารับแรงกดดันเพิ่ม หลังนักวิจัยจากอิสราเอล เปิดเผยผลการศึกษาที่ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาใต้ สามารถรอดพ้นจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์-บิออนเทคได้ ข้อมูลดังกล่าวมีขึ้น ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกังวลว่า เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่มีศักยภาพแพร่เชื้อ ได้ง่ายกว่า อาจส่งผลให้ความคืบหน้าที่จะหยุดยั้งการระบาดทั่วโลกต้องล่าช้าออกไป เพราะผลการศึกษาต่างๆ พบว่าเชื้อที่กลายพันธุ์นั้นทําให้ประสิทธิภาพการ ป้องกันของวัคซีนลดลง อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาดังกล่าวยังต้องรอการตรวจสอบเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองคํา พยายามทรงตัวยืนเหนือแนวรับในโซน 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับต่ําสุดของวันก่อนหน้า) หากยืนได้แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะ ทําให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซน 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับถัดไปนั้นอยู่จะในบริเวณ 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนํากลยุทธ์ การลงทุน เข้าซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,731-1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่ง ขายทํากําไรหากราคาทองคําไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,731 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถรอขายทำกำไร หากไม่ผ่านบริเวณแนวต้านโซน 1,759-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้ายืนไม่อยู่ใหรอซื้อ บริเวณแนวรับโซน 1,717 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th