โดย Ambar Warrick
Investing.com - ดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตของจีนในเดือนกรกฎาคมออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในวันพุธ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงเผชิญกับผลกระทบที่มาจากมาตรการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโควิด19
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 2.5% แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนลดลงมาอยู่ที่ 4.2% จาก 6.1% ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ที่ 4.8%
การใช้จ่ายของจีนที่ลดลงเกิดขึ้นหลังจากที่มีการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของโควิดในศูนย์กลางอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ หลายต่อหลายครั้ง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลง โดยเฉพาะกิจกรรมในโรงงานที่ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับอย่างเข้มงวดของการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน แสดงการหดตัวที่ไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม
อย่างไรก็ตาม ค่า CPI ที่อ่านได้นั้นสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 และสะท้อนให้เห็นว่าบางแง่มุมของเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าภาคบริการของจีนยังคงแข็งแกร่งและเป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมิถุนายนหลังจากที่ซบเซาในไตรมาสแรก
การอ่านค่าเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมยังคงอยู่ภายในช่วงเป้าหมายของรัฐบาลที่ประมาณ 3% ในปีนี้ รัฐบาลยังได้ระบุด้วยว่าจะอดทนต่อภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเนื่องจากนโยบายที่คงไว้จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางจีน ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลายครั้งในปีนี้เพื่อชดเชยผลกระทบจากการล็อกดาวน์ วิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทำให้รัฐบาลปลดล็อกเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้รัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หุ้นจีนและค่าเงินหยวนปรับตัวลดลงตามข้อมูลเศรษฐกิจ ดัชนีหุ้นบลูชิพ CSI 300 มีการซื้อขายลดลง 0.2% ในเวลา 22:02 ET (02:02 GMT)