รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

2 กองทุน ETF ที่คุณควรมีติดพอร์ตการลงทุนเอาไว้ในตอนนี้

เผยแพร่ 29/06/2564 14:59
DX
-
HG
-
CL
-
NG
-
TBT
-
NICKEL
-
EMXC
-

ก่อนที่ช่วงหน้าร้อนในฝั่งสหรัฐอเมริกาจะมาถึง ทำเนียบขาวได้มีการปรับกฎหมายใหม่ที่ส่งผลกระทบถึงหลายภาคส่วนและอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น EPA กระทรวงพลังงานและกระทรวงป่าไม้ต่างก็รีบเปลี่ยนนโยบายของอดีตประธานธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้มีความสอดคล้องกับสิ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนต้องการมากขึ้น

การเปลี่ยนประธานาธิบดีในครั้งนี้ นอกจากเราจะได้เห็นทำเนียบขาวที่รักษ์โลกอย่างมากถึงมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เรายังได้เห็นการกลับไปรวมอำนาจเอาไว้ที่ศูนย์กลางซึ่งเป็นสไตล์ที่พรรคเดโมแครตชอบทำและถนัดอยู่แล้ว ท่ามกลางกระแสที่หันไปทางไหนก็มีแต่ผู้คนพูดถึงการกระจายอำนาจ การไม่เอาศูนย์กลาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือการบริหารประเทศภายในระยะเวลา 100 วันของโจ ไบเดนเขาสามารถทำได้ดีจากการรวมศูนย์จริงๆ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมยังคงสงสัยเกี่ยวกับนโยบายรักษ์โลกของโจ ไบเดนก็คือเราไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดได้ทันทีเหมือนกับการพลิกหน้ากระดาษ ราคาน้ำมันก็ยังคงปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนความต้องพลังงานน้ำมันและก็ยังทำให้บริษัทผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วโลกได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

อีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจก็คือนโยบายพลังงานสะอาดได้โจมตีการใช้พลังงานจากถ่านหินหรือพลังงานฟอซซิลว่าสร้างมลพิษให้กับโลก แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วหากไปดูวิธีการชาร์ตพลังงานให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เราจะพบว่าในอนาคต หากเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้ากันทั้งหมด โลกจะต้องการแร่ลิเธียมทองแดงและนิกเกิลเป็นจำนวนมหาศาล 

การพูดถึงโลกที่เต็มไปด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอาจจะยังดูเป็นโลกในเชิงอุดมคติมากไปหน่อย งั้นเราลองหันกลับมาดูความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้กันบ้างอย่างเช่นเรื่องของเงินเฟ้อ ตั้งแต่โจ ไบเดนเข้ามารับตำแหน่ง ข่าวที่เราได้ยินกันจนชินหูนั่นก็คือการกู้ กู้ และกู้เพื่อพาสหรัฐฯ ให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ที่การเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ผมไม่เถียงเลยว่าการกู้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ช่วยให้เศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัวกลับมาได้ภายในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี แต่ในมุมมองเศรษฐศาสตร์ ผมก็ไม่เห็นด้วยที่ชาวอเมริกันทุกคนสมควรได้รับเงินเยียวยามูลค่า $2,000 สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำ ใช่ คนเหล่านี้ต้องการเงินเยียวยาจากรัฐบาล แต่สำหรับคนบางคนอย่างเช่น เจมี่ ไดมอน มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก เจฟ เบโซส อีลอน มัสก์ หรือวอร์เรน บัฟเฟต คนพวกนี้เขาต้องการเงิน $2,000 นี้ด้วยหรือ

การแจกเงินแบบเหวี่ยงแหมักจะนำมาสู่ภาวะเงินเฟ้อได้เสมอ หลังจากนี้เราเตรียมนับถอยหลังเข้าสู่ยุคการเสื่อมค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้เลย และในขณะเดียวกัน เราก็จะได้เห็นการเติบโตขึ้นของสกุลเงินของชาติอื่น เหล่าบรรดาประเทศเกิดใหม่จะมีความสามารถในการใช้หนี้ผ่านสกุลเงินดอลลาร์ได้ง่ายขึ้น และทำให้พวกเขามีเงินมากพอที่จะไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรือเทคโนโลยีภายในประเทศตัวเอง 

ด้วยเหตุนี้ การลงทุนกับผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจึงมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า ผมจึงขอเสนอตัวเลือกการลงทุนแรกนั่นก็คือกองทุน ETF ที่มีชื่อว่า ProShares UltraShort 20+ Year Treasury (NYSE:TBT)

นโยบายการเก็บภาษีของพรรคเดโมแครตแต่ไหนแต่ไรไม่เคยถูกใจชาวอเมริกันวัยทำงานหรือคนรวยอยู่แล้ว เพราะนโยบายนี้ฟังดูไม่มีเหตุผลเลยเมื่อเราต้องเอาหยาดเหงื่อแรงกายไปแลกกับเงินมาเพื่อจ่ายภาษีให้กับคนอื่น หากมองในมุมนี้ผมก็พอจะเข้าใจได้ แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากให้ลองมองในมุมของนักลงทุนดูเพราะหากพิจารณาดีๆ แล้ว เราอาจจะเป็นฝ่ายที่ได้มากกว่าเสียผลประโยชน์

ไม่ต้องกลัว!! ผมจะไม่แนะนำให้คุณลงทุนกับบริษัทที่มีคำว่า “โซลาร์” หรือ “วิน” อยู่ในชื่อแน่นอน เพราะวิธีเหล่านี้มันเชยเกินไปแล้ว แต่ผมก็ยังอยากให้เชื่อและแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในธุรกิจประเภทพลังงานธรรมชาติ แน่นอนว่าเราต้องทำการค้นคว้า วิเคราะห์ และกระจายเงินลงทุนของเราไปยังบริษัทเหล่านี้ ทั้งดีหรือแย่ แต่เชื่อเถอะว่าจะต้องมีสักตัวหนึ่งที่สามารถทำกำไรกลับคืนมาให้กับเราได้ ถึงแม้ว่าส่วนตัวผมจะไม่ชอบคณะรัฐมนตรีหลายคนที่โจ ไบเดนเลือกมา (เพราะเป็นคนเก่าคนแก่ตั้งแต่ยุคโอบามา) แต่ผมก็ยังเห็นว่าปี 2021 ยังพอที่จะเป็นปีที่สามารถลงทุนได้

นอกจากกองทุน ETF ProShares ที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ ผมยังมองหากองทุน ETF ที่อยู่ในตลาดเกิดใหม่ด้วย เพราะอย่างที่ผมได้วิเคราะห์ไปแล้วว่าดอลลาร์สหรัฐต้องเสื่อมค่าลงอย่างแน่นอน ดังนั้นผมจึงเริ่มมองหากองทุนที่จะสร้างความได้เปรียบจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เท่าที่ผมกวาดสายตาดูในตลาด ตอนนี้ยังไม่มีกองทุนไหนที่ดีเท่ากับ iShares MSCI Emerging Markets หรือที่ในอดีตเคยเรียกกันว่า ‘อดีตกองทุน ETF ของประเทศจีน’ (NASDAQ:EMXC)

ก่อนอื่น ผมขออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ซื้อกองทุนนี้เพราะมีคำว่า ‘ประเทศจีน’ อยู่ ในขณะที่นักวิเคราะห์หรือผู้เชี่ยวชาญกำลังชื่นชมหรือยกให้จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับที่สองของโลก และคาดการณ์กันว่าปีนี้เศรษฐกิจของประเทศจีนจะเติบโตมากถึง 8% แต่ในฐานะที่ผมได้เคยวิเคราะห์และคลุกคลีอยู่กับตลาดลงทุนของจีนมายาวนาน ผมกล้าพูดได้เลยว่าผมไม่เชื่อตัวเลขเศรษฐกิจอะไรที่จีนประกาศออกมาเลย

อันที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องรับความเสี่ยงลงทุนในประเทศจีนโดยตรง แม้ผมจะไม่เชื่อตัวเลขเศรษฐกิจที่จีนประกาศออกมา แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จีนถือเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจที่น่ากลัวสำหรับสหรัฐฯ นอกจาก MSCI ที่ผมแนะนำไป คุณอาจจะมองหากองทุน ETF ในประเทศฝั่งเอเชียที่ดูแล้วมีเสถียรภาพ เพราะกองทุนเหล่านั้นก็มักจะถือครองหุ้นของจีนเอาไว้โดยเฉลี่ย 25%-45% อยู่แล้ว

ส่วนตัวผมนั้น เหตุเดียวที่ผมจะเลือกถือครองกองทุน ETF EMXC มีอยู่สองประการ หนึ่งคือเป็นกองทุนทางเลือก เพราะส่วนตัวผมได้ถือครองกองทุน ETF อื่นที่ไว้ใจได้ ตรวจสอบได้เอาไว้อยู่แล้ว และสองคือผมต้องการถือครองหุ้นของบริษัทที่เป็นยักษ์ใหญ่ในเอเชียและของประเทศอินเดีย ที่จะสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกรัฐบาลเข้ามาแทรกแซงเมื่อเติบโตมากเกินไป และได้รับอิสระจากการบริหารของรัฐบาลมากกว่านี้

สัดส่วนการถือครองกองทุนโดยแบ่งตามภูมิภาค EMXC Largest Holdings

ที่มา: Fidelity.com

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย