รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ขาขึ้นเริ่มหอบแม้ภาพรวมการฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคมจะยังดูดี

เผยแพร่ 02/06/2564 11:49
NDX
-
US500
-
DJI
-
BA
-
CVX
-
CAT
-
F
-
DIS
-
DOW
-
GS
-
JPM
-
AAPL
-
GEN
-
XOM
-
HD
-
SEE
-
VZ
-
NUE
-
CHK
-
V
-
SLB
-
CL
-
NG
-
KMX
-
TSLA
-
DLTR
-
IXIC
-
SHEL
-
US10YT=X
-
BTC/USD
-
ETSY
-
LXRc1
-
ARKK
-

ในช่วงเริ่มต้นก้าวเข้าสู่เดือนพฤษภาคม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในภาพรวมยังถือว่าดูสดใสกว่าที่เป็นในปัจจุบันอยู่พอสมควร ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ตลาดแรงงานเริ่มมีคนมากขึ้น การก่อสร้างที่อยู่อาศัยยังขยายตัว และแน่นอนว่าเรื่องโควิด-19 เริ่มไม่ใช่ประเด็นสำหรับชาวอเมริกันอีกต่อไป 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตลาดได้ทราบตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของเดือนเมษายนที่หดตัวลงอย่างรุนแรง ขาขึ้นที่เคยสดใสก็เริ่มดูซึมลงไป ขาขึ้นทำในดัชนีหลักๆ ทำได้เพียงกลางๆ เท่านั้น และยิ่งได้เห็นตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคและการบริโภคส่วนบุคคลเติบโต ก็ยิ่งทำให้ตลาดลงทุนเป็นกังวลมากยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับการแฮกท่อส่งน้ำมันที่ทำให้ภาคตะวันตกของประเทศต้องประสบปัญหาราคาน้ำมันแพงขึ้น ก็ยิ่งทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ และสร้างความกังวลในบรรยากาศการลงทุนโดยรวม 

ถึงแม้ว่าตอนนี้ ในวินาทีที่เรากำลังก้าวเข้าสู่เดือนที่ได้ชื่อเป็นหมุดหมายของกลางปี 2021 ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อจะเบาบางลงไปบ้าง แต่ดูเหมือนว่าผลกระทบจากเดือนที่แล้วจะยังคงส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงเดือนใหม่ที่มีชื่อว่ามิถุนายน

ภาพรวมดัชนีหลักของสหรัฐอเมริกา

ตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมสรุปว่าดัชนีที่รวม 500 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ อย่างเอสแอนด์พี 500 จะปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.55% เท่านั้น ทั้งที่ในเดือนก่อนหน้าเอสแอนด์พี 500 ยังสามารถสร้างขาขึ้นได้ 5.24% และในเดือนมีนาคมทำได้ 4.2% นี่คือขาขึ้นที่อ่อนกำลังลงอย่างฉับพลัน 

ดัชนีหลักอื่นๆ ก็ถือว่าสะบักสะบอมมิใช่น้อย  แม้ว่าดาวโจนส์จะยังสามารถรักษาขาขึ้นตลอดทั้งเดือนเอาไว้ได้ที่ 1.93% แต่ดัชนีแห่งเทคโนโลยีอย่างแนสแด็กกลับติดลบ 1.53%NDX Weekly TTM

เมื่อแนสแด็กยังร่วง ดังนี้ดัชนีอย่างแนสแด็ก 100 ที่วัดเฉพาะ 100 บริษัทเทคฯ ยอดฮิตจึงไม่รอดที่จะปรับตัวลดลงตาม 1.26% ไม่ได้กลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลที่สร้างเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ 14,041.91 

อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำไม่เปลี่ยนแปลง

หลังจากที่ทำขาขึ้นจนทั้งตลาดเป็นกังวลไปเมื่อเดือนมีนาคม ในเดือนที่แล้วกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีกลับไม่ได้สร้างความตื่นเต้นเหมือนอย่างเคย ในเดือนที่แล้วกราฟผลตอบแทนฯ มีตัวเลขอยู่ที่ 1.581% ปรับตัวลดลงมาจาก 1.626% เมื่อวันที่ 30 เมษายน ทั้งที่เคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดแห่งปีเอาไว้ที่ 1.74% เอาไว้แท้ๆ อันที่จริงนับตั้งแต่ยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อัตราผลตอบแทนเคยวิ่งขึ้นไปเกิน 2% จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยทำได้อีกเลย ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นยังคงนิ่งอยู่ที่ 0.00% - 0.25% เหมือนเดิม

ขาขึ้นในตลาดพลังงาน

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ปิดเดือนพฤษภาคมเอาไว้ที่ระดับราคา $66.32 ต่อบาร์เรล ปรับตัวขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและปรับตัวขึ้น 36.7% เมื่อเทียบกับปี 2020 

เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ราคาน้ำมันดิบ WTI ล่วงหน้าเคยร่วงลงไปจนถึงระดับติดลบเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์การซื้อขายน้ำมัน อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการทะเลากันระหว่างรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย 

ขาขึ้นของราคาน้ำมันส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเช่นการขุดเจาะน้ำมันสามารถกลับมาดำเนินกิจการได้อีกครั้งCHK Weekly TTM

บริษัทผู้ผลิตน้ำมันอย่าง Chesapeake Energy (NYSE:CHK) สามารถปรับตัวขึ้นตลอดทั้งเดือนได้ 15.87% ในขณะที่ Schlumberger (NYSE:SLB) ปรับขึ้น 15.8% แต่ Exxon Mobil (NYSE:XOM) สามารถทำขาขึ้นได้เพียง 1.97% เท่านั้น เมื่อหันมาพิจารณาจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานรายสัปดาห์โดย Baker Hughes เมื่อวันศุกร์ที่แล้วพบว่ามีจำนวนแท่นขุดเจาะที่เปิดใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 455 แท่น เพิ่มขึ้น 87% จากตัวเลขในเดือนสิงหาคมปี 2020 

การกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพทำให้นักลงทุนหันไปเน้นหุ้นกลุ่มเน้นคุณค่ามากขึ้น

ปัจจัยที่หนุนขาขึ้นมาตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมคือข่าวการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพจนสามารถลดยอดผู้เสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกาลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยิ่งกลับมาเปิดทำมาค้าขายกับโลกได้เร็วมากยิ่งขึ้น 

จากการวัดเฉพาะช่วงวันหยุดยาวสามวันเนื่องในวันทหารผ่านศึก เราพบว่ามีผู้คนเข้าไปใช้บริการอย่างเช่นโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร สนามบิน และการเดินทางด้วยรถมากขึ้นอย่างสังเกตได้ ที่สำคัญก็คือผู้บริโภคเหล่านั้นกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากกว่าการซื้อเฉพาะสินค้าจำเป็นด้วย ภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้หุ้นในกลุ่ม ผู้ผลิตเหล็ก ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เหมืองขุดแร่ พลังงานและสถาบันการเงินต่างเติบโตขึ้นตามกัน

ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดได้แก่ NortonLifeLock (NASDAQ:NLOK) ด้วยผลงานขาขึ้น 28% ตามมาด้วย Ford Motor (NYSE:F) 25.9% Nucor (NYSE:NUE) 24.7% และ Sealed Air (NYSE:SEE) 15.1%

ส่วนหุ้นที่เคยทำผลงานได้ดีในเดือนนี้ของปีที่แล้วกลับปรับตัวลดลงเช่น Etsy (NASDAQ:ETSY) ที่ติดลบ 17% Dollar Tree (NASDAQ:DLTR) -15.1% และ CarMax (NYSE:KMX) -13.6%TSLA Weekly TTM

แต่ดูเหมือนว่าขาลงที่คนสนใจมากที่สุดจะเป็นของหุ้นเทสลา (NASDAQ:TSLA) ที่ปรับตัวลดลงมา 11.9% และถ้าหากวัดจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $900 ในเดือนมกราคมแล้วจะพบว่าหุ้นเทสลาได้ปรับตัวลดลงมา 31% ส่วนหนึ่งของขาลงในหุ้นเทสลานั้นเกิดมาจากการชะลอตัวของดัชนีแอนด์พี 500 และขาลงของแนสแด็กทั้งสองตัวด้วย

หุ้นที่ทำขาขึ้นได้ดีในดัชนีดาวโจนส์ได้แก่ Dow (NYSE:DOW) +9.47% JPMorgan Chase (NYSE:JPM) ที่ปรับตัวขึ้นมา 6.78% Goldman Sachs (NYSE:GS) +6.76% Caterpillar (NYSE:CAT)+5.69% และ (NYSE:BA) +5.42%

ส่วนหุ้นที่ติดลบได้แก่ Apple (NASDAQ:AAPL) -5.2% Walt Disney (NYSE:DIS) -3.96% Visa (NYSE:V) -2.68%  Verizon Communications (NYSE:VZ) -2.25% และ Home Depot (NYSE:HD) -1.47% ซึ่งหุ้นแอปเปิลและโฮมดีโปเคยเป็นหุ้นที่ทำขาขึ้นดีที่สุดในเดือนเมษายนสำหรับดาวโจนส์

ราคาไม้แปรรูปกับภาวะเงินเฟ้อ

การผสมผสานกันระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและแรงกดดันจากภัยโรคระบาดทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาหลายอย่าง แต่ที่เห็นเด่นชัดที่สุดก็คือราคาของไม้แปรรูปที่ปรับตัวขึ้นมากถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับราคาในปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์หลายคนให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ราคาไม้แปรรูปทะยานขึ้นสูงขนาดนี้เป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำหนุนให้คนมีความต้องการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยโดย S&P CoreLogic Case-Shiller ระบุว่าราคาที่อยู่อาศัยที่อยู่ในเมืองทางเศรษฐกิจต่างๆ มีราคาเพิ่มขึ้น 13.25% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

ชอน เคลลี่ บรรณาธิการแห่ง Random Length อธิบายถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทานพื้นฐาน เมื่อผู้คนไม่สามารถทำงานแบบรวมกลุ่มกันในเมืองได้แบบเมื่อก่อน พวกเขาจึงกระจายตัวกันกลับไปยังบ้านของตนและลงทุนปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับสภาพการทำงาน บางคนถึงกับซื้อบ้านใหม่เลยเพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำLumber Weekly TTM

แต่จากรูปก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาไม้แปรรูปอาจจะลงมาจากจุดสูงสุดแล้ว กราฟราคาไม้แปรรูปล่วงหน้าได้ปรับตัวลดลงมา 21% จาก $1,670.50 ต่อหนึ่งพันบอร์ดฟุตลงมาเป็น $1,303.50 อีกหนึ่งประเด็นที่บริษัทเอกชนประเมินไว้ว่าเกี่ยวข้องกับราคาไม้แปรรูปคือการขึ้นภาษีการค้าไม้กับประเทศจีนและสหภาพยุโรปมาตั้งแต่ยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งตอนนี้สมควรถูกนำออกได้แล้ว

เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม

เทสลา: ยอดขายของบริษัทเทสลาในไตรมาสที่ 1 ไม่ได้เติบโตอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ กำไร $101 ล้านเหรียญที่บริษัทได้มานั้นเกิดมาจากการขายบิทคอยน์เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้กำไรที่ได้ยังมาจากการลดหย่อนภาษีที่บริษัทเทสลาสามารถทำได้ตามเป้าในเรื่องของการลดมลพิษจากการใช้ท่อไอเสียคิดเป็นมูลค่า $518 ล้านเหรียญสหรัฐ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงครึ่งปีแรกของ 2021 ถือว่าไม่ใช่ปีที่สดใสสำหรับเทสลา เพราะมีทั้งข่าวคนเสียชีวิตจากระบบขับขี่อัตโนมัติและการสร้างโรงงานใหม่ที่เบอร์ลินต้องถูกเลื่อนออกไป 

กองทุน ARK Innovation: นาทีนี้คงไม่มีกองทุนไหนที่เป็นข่าวได้แทบทุกวันเหมือนกับกองทุน ARK Innovation (NYSE:ARKK) ของคุณเคธี วูด อีกแล้ว ในปี 2020 กองทุนของเธอเติบโตขึ้นมากกว่า 149% กลายเป็นกองทุนที่ถือหุ้นเทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในนาทีนี้ อย่างไรก็ตามเพราะกองทุน ARK ซื้อหุ้นของเทสลาเอาไว้มากถึง 10.1% ของสินทรัพย์ที่มีทั้งหมด ดังนั้นการร่วงลงของหุ้นเทสลาจึงทำให้ราคาของกองทุน ARK ปรับตัวลดลงตามมาด้วย

สกุลเงินดิจิทัล: การทะยานขึ้นไปยืนเหนือ $60,000 ภายในเวลาไม่ถึงปีและการร่วงลงมาวิ่งอยู่ที่ $36,000 ในตอนนี้ จึงไม่แปลกใจที่บิทคอยน์และตลาดสกุลเงินดิจิทัลจะยังคงเป็นที่สนใจของตลาดลงทุน นอกจากนี้สำนักข่าว Digiconomist ยังนำเสนอข่าวด้วยว่าการขุดเหมืองบิทคอยน์นั้นทำให้มีการใช้งานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เคยมีการเปรียบเทียบว่าการใช้ไฟฟ้าเพื่อขุดบิทคอยน์ในตอนนี้มากกว่าการใช้ไฟฟ้าของคนเนเธอร์แลนด์ทั้งประเทศเสียอีก

บริษัทผู้ผลิตน้ำมันกับนโยบายรักษ์โลก: นักลงทุนของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันเอ็กซอนโมบิลต้องประหลาดใจเมื่อเห็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เสนอให้บริษัททำแผนดำเนินการที่มีการใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเสนอแผนครั้งนี้มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างน้อยสองคนที่เห็นด้วย นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเอ็กซอนเท่านั้น แต่บริษัทด้านพลังงานชื่อดังอื่นๆ อย่างเช่นเชฟรอน  (NYSE:CVX) หรือ รอยัล ดัช เชล (NYSE:RDSa) ต่างก็ถูกบอร์ดบริหารกดดันให้มีแผนที่ลดการก่อมลพิษทางอากาศมากขึ้น

เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมจะถูกส่งต่อมายังเดือนมิถุนายนอย่างไม่ต้องสงสัย ตลาดลงทุนจะเลิกสนใจข่าวโควิดภายในสหรัฐอเมริกามากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะหันไปสนใจข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน 

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงยืนกรานว่าการเร่งตัวของเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นกับสิ่งของต่างๆ ในตอนนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวเท่านั้น และพวกเขาจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปีหน้า แต่ความจริงนี้อาจเปลี่ยนไปหลังจากที่พวกเขาได้เห็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นจากตัวเลขที่น่าผิดหวังในเดือนเมษายนได้หรือไม่

ส่วนราคาที่อยู่อาศัยเราเชื่อว่าจะไม่ปรับลดลงจนกว่าเหล่าบรรดานายจ้างทั้งหลายจะบอกลูกจ้างของพวกเขาว่าให้กลับมาทำงานที่ออฟฟิศตามเดิม อันที่จริงก็มีนายจ้างหลายคนที่ติดใจการทำงานจากที่บ้านไปแล้ว 

ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดที่เราเห็นในตอนนี้เหมือนจะมาจากเรื่องการเมืองเป็นส่วนใหญ่ แม้ข่าวอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่เคยทะเลาะกันเรื่องดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะสงบลง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการทะเลาะกันในประเด็นศาสนานั้นจะจบ 

การที่รัฐบาลเบลลารุสส่งเครื่องบินรบขึ้นบินประกบเที่ยวบิน FR4978 ของสายการบินไรอันแอร์ ที่กำลังเดินทางจากกรุงเอเธนส์ของกรีซไปยังเมืองวิลเนียสของลิทัวเนีย แล้วบังคับให้เปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่กรุงมินสค์ เมืองหลวงของเบลารุส โดยอ้างว่ามีการขู่วางระเบิด ก่อนที่จะเข้าจับกุมนายโรมัน โปรทาเซวิช ผู้สื่อข่าวชาวเบลารุส วัย 26 ปี ที่ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ในลิทัวเนียก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องจับตากันต่อไป

สุดท้าย นักลงทุนต้องจับตาดูความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ รัสเซียและประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนและวลาดีเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนอาจแย่ลงหลังจากโจ ไบเดนต้องการให้มีการตรวจสอบที่มาของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าจีนต้องไม่ยอมให้ตรวจสอบได้โดยง่าย

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย