ยูโรเทียบดอลลาร์หลุดลงสู่ Low ใหม่เพราะตัวเลขสหรัฐฯ ออกมาดี

เผยแพร่ 26/03/2564 12:09
EUR/USD
-
GBP/USD
-
AUD/USD
-
NZD/USD
-
CAD/USD
-
CL
-
DXY
-
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของอเมริกาออกมาดีมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ เมื่อเทียบสกุลเงินในบรรดากลุ่ม G3 (ดอลลาร์สหรัฐ ยูโรและเยน) จะพบว่าสกุลเงินดอลลาร์คือสกุลเงินที่ฟื้นตัวได้เร็วที่สุดและข้อมูลทางเศรษฐกิจของอเมริกาก็เริ่มแสดงให้เห็นว่าการกระจายวัคซีนที่รวดเร็วจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน 70% กว่าเปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันที่อายุ 65 หรือแก่กว่าได้รับวัคซีนต้านโควิดแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส 

ธุรกิจร้านค้า และห้างร้านต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาเริ่มกลับมาเปิดให้บริการ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ ผลของการดำเนินนโยบายฟื้นฟูประเทศจากโควิดจึงทำให้เราได้เห็นตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในที่สุดก็ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 700,000 คนได้สำเร็จ  ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯ เมื่อสัปดาห์ก่อนลดลงมาเหลือ 684,000 คน นับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สี่ของสหรัฐฯ ก็ถูกปรับขึ้นจาก 4.1% เป็น 4.3% แม้เส้นทางกลับคืนสู่เศรษฐกิจช่วงก่อนโควิดจะยังอีกห่างไกล แต่การที่ตัวเลขเหล่านี้ดีขึ้นแปลว่าการดำเนินนโยบายฟื้นฟูประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และทีมงานเดินมาถูกทางแล้ว ตราบใดที่ยังมีชาวอเมริกันได้รับวัคซีนในทุกๆ วัน ตัวเลขทางเศรษฐกิจในอนาคตก็จะค่อยๆ ดีขึ้นตามไปด้วย

 

แม้ข่าวดีนี้จะทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาถือครองดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงแรกของการเปิดตลาดกลับไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามข่าวดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ที่งาน NPR’s Morning เรียกว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การระบาดเกิดขึ้นเลยก็ได้ที่เจอโรม พาวเวลล์พูดถึง “อนาคตที่เงินกระตุ้นเศรษฐกิจลดลง” เขากล่าวว่า

“ตอนนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังอยู่บนเส้นทางที่ต้องการบรรลุเป้าหมายของเราให้ได้ (หมายถึงเป้าเงินเฟ้อ 2%) แต่เราอาจจะต้องเริ่มลดวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBS) ลง” 

ในมุมมองของนักวิเคราะห์แล้วนี่คือข่าวดีสำหรับตลาดและสินทรัพย์ของสหรัฐฯ เป็นอย่างมากและเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทำไมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถึงสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดบวกก่อนปิดตลาดซื้อขายในวันพฤหัสบดีได้

ภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพราะวัคซีนช่างเป็นภาพที่แตกต่างกับโซนยุโรปโดยสิ้นเชิง อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่าที่ยุโรปตอนนี้บางประเทศอย่างเช่นเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลีพึ่งประกาศยืดระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ออกไป เมื่อเทียบจำนวนผู้ได้รับวัคซีนแล้วพบว่ามีเพียง 9% ของชาวเยอรมันเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนโดสแรก ตลอดทั้งเดือนมีนาคมเรามีภาพที่เป็นลบต่อการฟื้นตัวของสกุลเงินยูโรมาโดยตลอดและรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจาก IFO ในวันนี้จะตอกย้ำว่าสิ่งที่เราประเมินนั้นเป็นความจริง

 

ตัวเลขความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจของเยอรมันอาจจะยังเป็นตัวเลขที่ดีเพราะดัชนี PMI ก่อนหน้านี้ที่ขยายตัว แต่ความเชื่อมั่นนั้นจะไม่ใช่ความเชื่อมั่นแบบ 100% ตราบใดที่รัฐบาลเยอรมันยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดรอบนี้ได้ มีสมาชิกบางคนของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ประเมินตัวเลข GDP ของยูโรโซนในช่วงครึ่งปีแรกออกมาแล้วว่าหดตัวแน่นอน ด้วยความจริงประการนี้จึงทำให้กราฟ EUR/USD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับราคา 1.18 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และอาจจะไม่เจอคนช้อนเลยจนกว่าจะลงไปถึงเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ที่ 1.17
 
สกุลเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หยุดสถิติการปรับตัวลดลงติดต่อกันห้าวันได้ชั่วคราว สถานการณ์การกระจายวัคซีนของสหราชอาณาจักรดีไม่แพ้กันกับของสหรัฐอเมริกา รัฐบาลของบอริส จอห์นสัน สามารถกระจายวัคซีนได้ดีและเร็วมาก ประชากรวัยทำงานเกินกว่า 50% ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว นับจากนี้เราจะได้เห็นตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรปรับตัวขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน เริ่มจากตัวเลขยอดค้าปลีกที่จะรายงานในวันนี้เชื่อว่าตัวเลขในวันนี้จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากตัวเลขของเดือนก่อนปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว

สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์และดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าตัวเลขดุลบัญชีการค้าของนิวซีแลนด์จะกลับมาเป็นบวก แต่นักลงทุนไม่อาจมองข้ามการเข้ามาแทรกแซงราคาที่อยู่อาศัยของรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ วันนี้แคนาดาไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่สกุลเงินอาจได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงต่อและความเคลื่อนไหวของกฎหมายการเก็บภาษีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการใช้คาร์บอน การที่แคนาดาเอาจริงกับการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยการขึ้นภาษีทำให้บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานดั้งเดิมได้รับผลกระทบ

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย