สิ่งที่ได้จากงาน Opportunity Day
1.ช่วง 1Q20 รายได้จากการขายอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (-2.6%YoY) ผลจาก ยอดขายต่างประเทศลดลง 18%YoY จากผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่ ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 5%YoY ผลจากการปรับกลยุทธ์การตลาดในประเทศที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศช่วง 1Q20 มียอดขายหดตัวลง 5.6 %YoY
2.ในปี20 บริษัทดำเนินกลยุทธ์ 3N ในการขยายธุรกิจ ประกอบด้วย
(1) New product ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ PH +8.5 เป็นเครื่องดื่มน้ำอัลคาไลน์ผสมวิตามินบีรวม เริ่มวางจำหน่ายต้นเดือนนี้ที่ 7-11, Tesco Lotus และร้านค้าชั้นนำ โดยเครื่องดื่มชนิดนี้ มีอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 30% ซึ่งจะช่วยเพิ่ม อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัท (1Q20 อัตรากำไรขั้นต้น ของบริษัทอยู่ที่ 19.6%)
(2) New Market มีแผนเพิ่มยอดขายในตลาด CLMV ซึ่งปัจจุบันยัง ครองส่วนแบ่งการตลาดดีอยู่ แม้เศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้จะได้รับ ผลกระทบจากโควิด-19 และมีแผนนำผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ PH +8.5 เข้าไปขาย ในกัมพูชาและลาว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องโครงสร้างราคา
(3) New Business บริษัทเตรียมออกสินค้ารูปแบบใหม่ คือ ลูกอมตรา Yen Yen cool ซึ่งจะพร้อมจำหน่าย ในกรกฎาคมปีนี้
ผลประกอบการ1Q20
รายงานกำไรสุทธิ 1Q20 ที่ 159 ล้านบาท (+39.4%YoY) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นผลจาก ค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดและส่งเสริมการขายที่ลดลง 34.7%YoY มาอยู่ที่ 62.4 ล้านบาท ประกอบกับ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 54.7%YoY มาอยู่ที่ 5.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ลดลงต่อเนื่อง
กราฟหุ้น อิชิตัน กรุ๊ป (BK:ICHI) ( กดดูความเคลื่อนไหว )
ความเห็นนักวิเคราะห์
ยอดขายหลังปี 19 มีโอกาสกลับมาโตจากการฟื้นตัวหลัง Covit-19, การขยาย ส่วนแบ่งตลาดในประเทศจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น รวมถึงการขยายตลาดใน CLMV อย่างไรก็ตามราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ปรับขึ้น 23% หลังการประกาศงบ 1Q20 ช่วงกลางพ.ค.ที่ผ่านมา จนปัจจุบันซื้อขายที่ ระดับ 1.46x Trailing PBV สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1 ปีที่ 1.3 เท่า ถือว่าสะท้อนความ คาดหวังเชิงบวกต่อการเติบโตของผลประกอบการปีนี้ไปแล้ว พิจารณาจาก Bloomberg มีนักวิเคราะห์ 1 ท่านที่ให้คำแนะนำ “ซื้อ”ด้วยราคาเป้าหมายเฉลี่ย ที่ 6.90 บาท
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
.....
ห้ามพลาด